bookmark_borderเคล็ดลับของการเลี้ยงลูกน้อย ให้มีความเก่งและมั่นใจ

การเลี้ยงลูกมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเอาสะเลย หากใครที่กำลังเป็นแม่คนอยู่ เราขอแนะนำการที่จะทำให้ลูกของคุณนั้นมีความเก่ง และมีความมั่นใจกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่ เรามารับมือและเลี้ยงลูกไปพร้อมกันดีกว่า

เราจะทำอย่างไรให้ลูกของเราโตขึ้นมามีความมั่นใจ

1.พิจารณาการให้คำชื่นชม

การเลือกที่จะชมลูกในเรื่องต่างๆ ไม่ใช่ว่าลูกของคุณทำอันไหนได้ก็ชมไปสะหมด เด็กจะเกิดการชิน ว่าการชมเป็นสิ่งที่ดีหรือว่าทำอะไรก็ต้องรอให้พ่อแม่มาชม ดังนั้นการเลือกชมเฉพาะบางสิ่งจึงถือได้ว่ามันเป็นเรื่องที่พิเศษ อย่างไรก็ตามการให้กำลังใจลูกเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าเรื่องนั้นมันพิเศษมากๆคุณก็ควรชมแต่ก็ไม่ควรที่จะให้กำลังใจทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องที่เด็กทำในประจำวันอันนี้ก็ไม่ต้องชมก็ได้

 

2.อย่าพยายามช่วยลูกๆทุกเรื่อง

การปล่อยให้ลูกน้อยของคุณทำอะไรเองบ้างก็เป็นการฝึกทักษะให้อย่างหนึ่ง การที่เขากล้าที่จะทำก็ย่อมเป็นผลดีในอนาคต หากคุณช่วยเขาทุกเรื่องต่อไปเขาจะไม่มีความกล้าอะไรเลย หรือจะทำอะไรไม่เป็นเพราะต้องรอให้พ่อแม่มาช่วยอยู่ตลอด แบบนี้โตไปจะกล้าทำอะไรเองได้อย่างไร ดังนั้นพ่อแม่ไม่ควรที่จะฝึกความเคยชินด้วยการช่วยลูก ปล่อยให้เขาลองทำเรื่องผิดถูกดูบ้างจะเป็นการฝึกวินัยไปในตัว

 

3.ให้ลูกเลือกตัดสินใจเอง

หากมีการคิดการตัดสินใจใดๆก็ตาม เราผู้เป็นพ่อแม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกนั้นหาข้อมูลหรือตัดสินใจอะไรเองบ้าง บางครั้งอาจจะไม่ตรงกับใจเราเท่าไหร่ แต่มันคือความชอบของลูก เราควรมองอยู่ห่างๆ ให้เขาได้คิดได้ตัดสินใจ ในเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ พ่อแม่ไม่ควรเข้ามาจุ้นทุกเรื่องหรือตัดสินใจแทนเลย เพราะมันจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกในอนาคตได้

 

4.ส่งเสริมการชอบของลูก

ไม่ว่าลูกของท่านจะชื่นชอบอะไรเราผู้เป็นผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการชอบของลูกเพียงเพราะเขามีการตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ชอบ ดังนั้นเราควรคอยให้คำแนะนำเท่านั้นแต่ไม่ควรเข้าไปขวาง หรือห้ามในสิ่งที่ลูกชอบ สิ่งที่ลูกชอบนั้นมันไม่ได้แค่ส่งเสริมความคิดแต่มันจะทำให้ลูกมีความมั่นใจ การตัดสินใจ และลูกของคุณจะเก่งขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่นการเล่นกีฬา หากลูกน้อยของคุณชอบ และต้องกสนเล่น คุณก็ควรที่จะสนับสนุน ไม่ควรห้ามหรือไม่ต้องคิดเองเออเองว่าลูกอาจจะล้ม อาจจะเจ็บ ปล่อยให้เขาได้ทำอะไรด้วยตนเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

bookmark_borderสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงหลังการรับประทานอาหารเสร็จ

หากคุณกำลังคิดที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี การเลือกรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวหรือการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว ก็ไม่อาจทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้ เพราะการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลอย่างครบถ้วนเพื่อให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงอยู่เสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมั่นสังเกตหรือดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองหลังการเลือกรับประทานอาหารหรือหลังจากการที่เรากินอิ่มแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการทำร้ายสุขภาพร่างกายของตนเอง

โดยการเลือกทำพฤติกรรมที่ไม่ควรทำหลังการกินอิ่ม จนอาจทำให้ร่างกายของตนเองนั้นได้รับผลกระทบและอาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นได้ ฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมีพฤติกรรมดังกล่าว หรือไม่รู้ว่า สิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำหลังจากการที่เราเลือกรับประทานอาหารเสร็จ

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าสิ่งที่หลายๆคนควรจะหลีกเลี่ยงหลังจากการกินอิ่ม เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและป้องกันตนเองจากการเกิดโรคร้าย จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • การดื่มน้ำอัดลม ถึงแม้ว่าหลังจากการที่เรากินอิ่มแล้ว หลายๆคนจะเลือกดื่มน้ำอัดลมเพราะเป็นการทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น แต่รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่เรากินอิ่มแล้วน้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ว่าในน้ำอัดลมนั้นจะอุดมไปด้วยก๊าซค่อนข้างสูง จึงอาจทำให้เราเกิดอาการท้องอืดได้ง่าย และทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานหนักจนเกินไป จนทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดอาการแปรปรวนและทำให้เราท้องอืดได้นั่นเอง

  • การนั่งงอตัว ถึงแม้ว่าการที่เราจะนั่งงอตัวหลังจากการกินอิ่มจะเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ไม่ได้ห้ามทำอย่างเด็ดขาดแต่หลังจากที่เรากินอิ่มแล้วการนั่งงอตัวถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ผิด เพราะการที่เรานั่งงอตัวหลังการกินเสร็จนั้นจะทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายของเราเกิดอาการเบียดกัน

จนไปขัดขวางระบบย่อยอาหารของเรา ฉะนั้น  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดหลังจากการกินอิ่มเลยก็คือไม่ควรนั่งงอตัวครัวที่จะนั่งหลังตรงเพื่อเป็นการกระตุ้นระบบย่อยอาหารของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่เราทานอาหารเสร็จหรือจะหลังจากที่เรากินอิ่มแล้วนั้นสิ่งที่เราไม่ควรทำเลยก็คืออาบน้ำทันที เพราะในระหว่างที่เรากินอิ่มนั้นระบบย่อยอาหารของเราจะต้องการพลังงานเยอะมากๆ หากเราอาบน้ำเลยทันทีจะทำให้หลอดเลือดแบ่งเลือดที่ควรไหลเวียนกระเพาะอาหารมายังผิวหนังเกิดผลกระทบได้นั่นเอง

bookmark_borderรู้หรือไม่ประโยชน์การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

ประโยชน์การออกกำลังกาย อย่างที่เราทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักที่จะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เนื่องจากอายุที่มากขึ้น บวกกับการมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยจะอำนวย จึงทำให้การออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ

จึงทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง และมีร่างกายที่อ่อนแอได้ง่ายอีกด้วย และยิ่งทำให้ร่างกายนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่นั้นไม่ควรจะมองข้าม ยิ่งหากออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย

ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายที่ด แข็งแรง จนนำไปสู่การใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สูงอายุคนไหนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ที่ผู้สูงอายุจะได้จากการออกกำลังกายนั้นจะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย 

 

  • การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

แน่นอนว่าหากผู้สูงอายุนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ เพราะหากเรามีร่างกายที่แข็งแรง อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ไม่เสื่อมสภาพได้ง่ายอีกด้วย 

 

  • การออกกำลังกายช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้

เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุนั้นมักที่จะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว จึงทำให้บางคนนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ดังนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญย่างยิ่งที่ผู้สูงอายุไม่ควรมองข้าม เพราะการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย การเสริมสร้างกระดูกที่ดีให้แก้ร่างกาย นอกจากจะทำให้การดำเนินชีวิตนั้นเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย

  • การออกกำลังกายช่วยบรรเทาความเครียด

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ความเครียดนั้นเป็นหนึ่งต้อนเหตุที่ทำร้ายสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สูงอายุคนไหนที่กำลังมีความเครียด ควรที่จะรบจัดการกับความเครียดโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ หรือสะสมในร่างกายเยอะจนเกินไปนั้น ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ อีกทั้งยังอาจทำให้สุขภาพจิตของเราไม่ดี

จนนำไปสู่การวิตกกังวลและนอนไม่หลับได้  ฉะนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ จะยิ่งช่วยบรรเทาความเครียด ช่วยกระตุ้นการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย  และช่วยให้หลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

bookmark_borderเคล็ดลับป้องกันเป็นเบาหวาน

หลายคนได้เข้ามาถามเราว่าพอจะมีวิธีไหนที่จะป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานเพราะว่าตอนที่ไปตรวจโรคประจำปีหลายคนก็เริ่มมีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงแล้วคุณหมอก็จะบอกว่าคุณเริ่มมีน้ำตาลสูงจะเสี่ยงเป็นเบาหวานแล้ววันนี้เราเลยจัดให้เราจะมาเคล็ดลับดีๆในการป้องกันไม่ให้คุณเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเกิดจากที่ร่างกายของเราผลิตฮอร์ดมนอินซูลินได้น้อยลงหรือร่างกายของเรามีภาวะดื้อต่ออินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นๆจนกลายเป็นโรคเบาหวานขึ้นมานั้นเองโดยปัจจัยที่ส่งเสริมทำให้เกิดโรคเบาหวานก็มีอยู่หลายปัจจัยเลยทีเดียว

ซึ่งมีขึ้นปัจจัยที่แก้ไขได้แล้วก็มีปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ โดยปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ก็คือ อายุ และ กรรมพันธุ์ เมื่อเรามีอายุมากขึ้นๆตับอ่อนของเราก็จะเสื่อมถอยลงไปโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นมาก็เกิดได้ส่วนกรรมพันธุ์ใครที่มีญาติพี่น้องที่เป็นสายตรงเช่นพ่อแม่พี่น้องใครเป็นโรคเบาหวานเรามีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน

ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลไปไม่ใช่ว่าพ่อแม่เป็นแล้วเราจะเป็นโรคเบาหวานร้อยเปอร์เซนแต่แค่เรามีโอกาสเป็นมากคนอื่นเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นแล้วใครที่มีพ่อแม่เป็นเบาหวานอย่าเพิ่งไปกังวลแต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถแก้ไขได้และวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆในการที่จะแก้ไขและก็ป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคเบาหวาน

ข้อแรกก็คือ ลดน้ำหนัก ใครที่มีภาวะอ้วนมีน้ำหนักเกินจำเป้นที่จะต้องลดน้ำหนักลงมาเพราะว่าการที่เราอยู่ในภาวะอ้วนก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรามีภาวะดื้อต่ออินซูลินมากขึ้นทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นๆจนกลายเป็นโรคเบาหวานขึ้นมานั่นเอง

เคล็ดลับป้องกันเป็นเบาหวาน เพราะฉะนั้นใครที่มีภาวะอ้วนหรือว่ามี BMI เกิน25ขึ้นไปจำเป็นจะต้องลดน้ำหนักลงมาเพื่อป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคเยาหวานนั่นเอง

ข้อสองก็คือ ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีผลงานวิจัยบอกว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานได้สำหรับใครที่ตอนนี้ยังไม่เคยออกกำลังกายเลยแนะนำว่าให้หันมาออกกำลังกายรับรองเลยสามารถถป้องกันเบาหวานได้

แนะนำว่าในแต่ละวันให้อกกกำลังกายอย่างน้อย30นาทีต่อวันแล้วก็ในหนึ่งอาทิตย์ออกกำลังกายอย่างน้อย5วันต่อสัปดาห์หรือสรุปง่ายๆแต่ละวันออกแค่30นาทีก็พอแล้วก็ในหนึ่งอาทิตย์ขอแค่เพียงห้าวันก็พอมันก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงป้องกันโรคเบาหวานได้บำรุงหัวใจทำให้เราแข็งแรงด้วยยังไงก็ลองไปทำกันดูรับรองเลยว่าสามารถป้องกันโรคเบาหวานได้

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

bookmark_borderน้ำมูก สามารถที่จะบอกอาการป่วยของเราได้จากสี

น้ำมูก สามารถที่จะบอกอาการป่วย ยามถึงเวลาป่วยอาการแรกๆที่พิจารณาได้ส่วนใหญ่เป็นอาการปวดเหมื่อยตามเนื้อตามตัว แล้วและก็ตามด้วยน้ำมูกที่มีการไหลออกมา ถ้าเกิดไม่ทำความสะอาดก็จะแปลงเปลี่ยนเป็นขี้มูกปกปิดรูจมูกให้หายใจไม่สะดวกอีกจนกระทั่งจำต้องพกทิชชู่ประจำตัวตลอด ซึ่งก็น่าอัศจรรย์อยู่เช่นเดียวกันที่การป่วยบาง สีของน้ำมูก ก็เข้มน้อยแตกต่างกัน เราจึงขอแนะนำในการดูสีของน้ำมูกให้ได้รู้กันว่า สีของน้ำมูกสามารถสืบหาโรคที่เราเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน

รู้จักประโยชน์ของน้ำมูก

ถ้าเกิดร่างกายรู้สึกเจ็บป่วยและก็ตอนที่เผชิญฝุ่นผงมลพิษ ร่างกายก็จะมีการกระตุ้นต่อสภาพแวดล้อม เหมือนที่พูดมาแล้วให้เยื่อบุทางเดินหายใจและก็ทางเดินอาหาร ตัวอย่างเช่น ปอด จมูก ไซนัส คอ ไปถึงกระทั่งหลอดลม ได้สร้างของเหลวเพื่อที่จะค่อยจับสิ่งปลอมปนที่ล่องลอยไม่ให้ไปสู่ร่างกายอากาศ ในบางทีอาจเป็นไปได้อีกทั้งฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ รวมทั้งเชื้อไวรัส โดยน้ำมูกมีได้หลากสีขึ้นกับปัจจัยสำหรับการผลิตของร่างกาย ก็เลยทำให้เราสามารถที่จะดูสุขภาพพื้นฐานของเราได้จากน้ำมูกด้วยเหมือนกัน

ความหมายของน้ำมูกแต่ละสี

1.น้ำมูกใส เป็นน้ำมูกที่มีความข้นต่ำที่สุด มีลักษณะใส ไม่มีสี รวมทั้งเหลวเป็นน้ำ บ่งถึงการมีร่างกายแข็งแรง แม้กระนั้นคนจำนวนมากมักพบได้บ่อยมากตอนเป็นหวัดนิดหน่อย หรือภูมิแพ้ที่ไม่ได้รุนแรงมากรวมถึงตอนร้องไห้ เพราะว่าจมูกแห้ง ร่างกายเลยอยากที่จะให้โพรงจมูกเปียกชื้นเพิ่มมากขึ้น

2.น้ำมูกสีขาว มีลักษณะเหนียวกว่าแบบใส มีสาเหตุจากน้ำมูกขังอยู่ด้านในโพรงจมูกเป็นระยะที่ยาวนานกระทั่งสูญเสียน้ำที่เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้น้ำมูกที่หนาเป็นสีขาวถึงแม้ปลอดภัยแม้กระนั้นแม้พบมากบางทีอาจเป็นสาเหตุของโรคไซนัส

3.น้ำมูกสีเขียว ซึ่งก็คือร่างกายเจ็บป่วย เนื่องจากว่าภูมิคุ้มกันของเรากำลังทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่รอบๆทางเดินหายใจหรือก็คือการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวจะสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้น้ำมูกเป็นสีเขียวผสมเหลืองออกมา

4.น้ำมูกสีแดง เป็นการส่งสัญญาณว่ามีอาการบาดเจ็บรอบๆจมูก หรืออาการเส้นโลหิตในโพรงจมูกแตก อีกทั้งจากการสั่งขี้มูกเยอะมากเกินไป แคะขี้มูกหลายครั้ง จะส่งผลให้น้ำมูกติดสีแดงจากเลือดรวมทั้งจะมีสีน้ำตาลที่เกิดจากเลือดที่แห้งแล้ว

5.น้ำมูกสีเทา พบเจอได้ยากโดยที่บางทีอาจเป็นอาการอีกแบบหนึ่งของอาการกำเนิดริดสีดวงด้านในโพรงจมูก โดยมีสาเหตุจากไซนัสที่มีการบวมเบ่งออกมา

6.น้ำมูกสีดำ อาจเป็นเพราะการได้รับเชื้อราที่ร้ายแรงจนถึงเป็นสัญญาณโรคแพ้อากาศจากเชื้อรา รวมทั้งเกิดจากการสูบบุหรี่หรือใช้สิ่งเสพติด และก็อยู่เขตอากาศที่เป็นมลภาวะเยอะเกินไป

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่ากัน

bookmark_borderคุณประโยชน์ดีๆของ “พริก” คนถูกใจรับประทานเผ็ดโดยตรง

คุณประโยชน์ดีๆของ “พริก” ของกินรสเผ็ด บางทีอาจสร้างความทรมาทรกรรมในช่องปากให้กับคนรับประทานจนถึงจะต้องเช็ดเหงื่อเฉือนน้ำตากันไปเป็นนานเลยและก็บางทีอาจจะป่วยไข้ท้องนักข้างหลังรับประทานเสร็จ แม้กระนั้นผู้ที่ถูกใจรับประทานเผ็ดอาจมีเฮ เมื่อทราบว่าของกินรสเผ็ดก็มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพได้เช่นกัน

พริกมาจากไหน?

พริกถูกศึกษาค้นพบทีแรกที่อเมริกากลาง รวมทั้งอเมริกาใต้ ในเมื่อราวๆ 7,000 ปีก่อน จาก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ต่อจากนั้นได้มีการนำพริกมาปลูก และก็แพร่ขยายไปทั่วยุโรป ก่อนที่จะแผ่กระจายไปทั่วทั้งโลก ซึ่งเมืองไทยของเรานั้น ก็รู้จักและก็เคยชินกับการปลูกพริกมานานแล้ว

สายพันธุ์ของพริกในไทย มีอยู่ทั้งสิ้นราวๆ 831 สายพันธุ์ รวมทั้งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กรุ๊ปใหญ่เป็นพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ รวมทั้งพริกขี้หนูเม็ดเล็ก สารแคปไซซินนี้ นอกเหนือจากที่จะดีต่อร่างกายแล้ว ยังมีลักษณะเด่นตรงที่ สามารถทนความร้อนได้ดิบได้ดี ทำให้ไม่ว่าจะผ่านวิธีการทำให้สุก หรือผึ่งแดดจนกระทั่งแห้ง ก็ยังคงความเผ็ดร้อนไว้ได้อย่างที่เคย

ประโยชน์ของการที่เรากินพริก

ลดน้ำหนัก   สารแคปไซซินอาจมีส่วนช่วยเผาผลาญพลังงานรวมทั้งไขมันภายในร่างกายได้ ก็เลยเป็นรสของกินของคนที่กำลังลดหุ่นได้ดิบได้ดี ก็เลยทำให้สารแคปไซซินเป็นองค์ประกอบของยาที่ช่วยสลายไขมันภายในร่างกายด้วย

บรรเทาอาหารไข้หวัด  พริกมีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยสร้างเสริมรูปแบบการทำงานของระบบภูมิต้านทานสำหรับการคุ้มครองปกป้องการรับเชื้อ ที่บางทีอาจนำมาซึ่งการเจ็บป่วย แม้กระนั้นมีข้อคิดเห็นเป็น วิตามินซีไม่ใช่ยาที่ใช้รักษาโรคหวัด แม้กระนั้นอาจมีส่วนช่วยลดอาการร้ายแรงของหวัด ทุเลาอาการหวัด    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ      แล้วก็ทำให้รู้สึกตัวตัวได้ไว ย่นเวลาการเจ็บป่วยได้

ลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงของมะเร็ง    ในพริกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่นอกเหนือจากที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณให้ผ่องใสแจ่มใสแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย รวมทั้งลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคโรคมะเร็งได้อีกด้วย

ช่วยให้อายุยืน    สารอาหารในพริก ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น ก็เลยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายและก็แก่ยืนยาวขึ้นได้ด้วย

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ  พริกจะช่วยลดการรวมกลุ่มของเกล็ดเลือด ช่วยละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดไม่จับตัวกันมีลักษณะที่กลายเป็นก้อนกระทั่งตันเส้นเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของโรคความดันเลือดสูง และก็โรคเส้นโลหิตและก็หัวใจ

ข้อควรระวังในการรับประทานพริก

ความเผ็ดของพริกไม่เหมาะสมกับคนที่มีโรคประจำตัวของระบบทางเดินอาหาร ดังเช่นว่า โรคแผลในกระเพาะ กรดไหลย้อน ไส้อักเสบ ฯลฯการกินพริกมากเกินความจำเป็น อาจส่งผลให้เจ็บท้อง ท้องร่วง หรือระคายกระเพาะได้ควรจะขอคำแนะนำแพทย์ก่อนจะมีการกิน เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาอาการแพ้ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับสตรีตั้งท้องและก็อยู่ในตอนให้นมลูก