สาเหตุของการเป็นโรคตับแข็งและโรคตับแข็งอยู่ได้กี่ปี
โรคตับแข็งอาจเกิดได้จากหลายๆสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญที่มีผลต่อการทำงานของตับ ที่จะทำลายเนื้อเยื่อต้นเหตที่นำไปสู่โรคตับวายเฉียบพลันและตับแข็งมากที่สุดมักเกิดจากสาเหตุดังนี้
– ดื่มแอลกอฮอลล์ ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์มากเกินไป
– การติดเชื่อของตับ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี
– ภาวะไขมันพอกที่ตับโดยไม่ได้มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอลล์ เช่น ภาวะไขมันพอกที่ตับเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
ส่วนสาเหตุอื่นๆที่อาจนำไปสู่โรคตับแข็งได้ เช่น
– การเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันบ่อยๆครั้ง จนทำให้เกิดภาวะย้อนกลับน้ำไหลเข้าตับ
– โรคทางพันธุกรรม เกิดจากรุ่นสู่รุ่นโดยมีการถ่ายทอดเชื้อต่อๆกัน
– โรคอื่นๆ ที่มีสาเหตุมาจากอาการปิดปกติของตับ มีการสะสมทองแดงมากเกินไป
– การรับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
– การรับประทานสมุนไพรบางชนิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
– ได้รับสารพิษโดยตรง จากการทำงาน
– ร่างกายมีธาตุเหล็กสูงเกินไป มีการสัสมในตับเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่พบได้ประมาณ (5-10%)
โดยส่วนใหญ่จากสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดจากข้างต้น จะถูกพบได้บ่อยๆในวัยอายุประมาณ 40-60 ปีขึ้นไป หากพบในเด็กหรือเกณฑ์ที่อายุต่ำกว่านั้นจะมีสาเหตมาจากไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรงหรือการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีบางชนิด โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสเกิดขึ้นได้ใกล้เคียงกัน พบได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูสูงอายุ ดังนั้นควรได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี หากใครมีผู้สูงอายุหรือบุคคลในบ้านที่กำลังประพฤติ พฤติกรรมเหล่านี้อยู่ ควรตักเตือนและอธิบายถึงสาเหตุและผลเสียที่นำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้นควรพูดคุยและตรวจหาสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี